แนวความคิดธุรกิจปัจจุบัน

สวัสดีครับ สำหรับใครก็ตามที่ได้เข้ามาเพื่อศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแนวความคิดต่อการทำงานในอดีตและปัจจุบัน ก่อนอื่นผมอยากให้ท่านลองคิดตามและลองเปิดใจในการรับข้อมูลนี้ก่อน เพราะถ้าหากท่านไม่เปิดใจแล้ว ถึงข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์มากหรือน้อยเพียงใดก็คงไม่สำคัญสำหรับท่าน และผมอยากอธิบายความหมายของคำว่า "แบบเก่า หรือ แนวความคิดในอดีต" และ "แบบใหม่ หรือแนวความคิดในปัจจุบัน" ก่อน เพื่อให้ท่านทราบถึงความคิดและวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนี้

แนวความคิดแบบเก่า - ก็คืออะไรก็ตามที่ถูกสั่งสอนและปลูกฝังทุกๆท่านมาตั้งแต่ยังเด็กไปจนโต สั่งสอนปลูกฝังกันไปต่างงๆนาๆตั้งแต่พ่อแม่ยันลูกหลาน แล้วเราก็รับต่อไปๆ ไม่ได้ทันดูให้ดี คิดให้ดี วิเคราะห์ให้ดีเลย ว่าจริงๆแล้วมันดีจริงหรือเปล่า ทำตามแล้วผลออกมาเป็นยังไงเป็นจริงตามที่สอนๆกันมาหรือเปล่า


แนวความคิดแบบใหม่ - ก็คืออะไรก็ตามที่อยู่นอกเหนือคำพูดที่กล่ามาข้างต้นเหล่่านั้น ที่นอกเหนือจากคำสอนและสิ่งที่ปลูกฝังเรามาแบบนั้น คือความคิดที่แตกต่าง เพียงแต่ว่าเรากล้าพอที่จะยอมรับความคิดต่างนั้นหรือเปล่าเท่านั้นเอง แล้วเมื่อเรากล้าที่จะยอมรับความคิดต่างๆเหล่านั้นแล้ว เรากล้าหรือเปล่าหล่ะ ที่จะทำตามความคิดของเราที่แตกต่างไปนั้นให้เกิดผลสำเร็จ


พอจะมองภาพรวมของแนวความคิดแบบเก่า กับ แบบใหม่ ออกแล้วหรือยังครับ หรือถ้าคิดว่า 2 แบบนี้มีรายละเอียดอะไรอีกก็ลองอ่านต่อได้ข้างล่างเลยครับ

แนวความคิดแบบเก่า - หลายๆท่านคงจะเคยได้ทราบถึงแนวความคิดและการบอกกล่าวและสั่งสอนกันมาของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือบรรดาญาติมิตรบรรพบุรุษต่างๆถึงการใช้ชีวิต ผมอยากให้ท่านลองคิดตามนะครับว่าเป็นอ่างที่ผมจะบอกหรือเปล่า คือ กร ลูกต้องตั้งใจเรียนนะ ขยันๆ จะได้เรียนเก่งๆ จบออกมาทำงานดีๆ บริษัทดีๆ เป็นเจ้าคนนายคน ใช่หรือเปล่าครับ นั่นแหละครับคือสิ่งที่เรียกว่าแนวความคิดแบบเก่า แล้วผลที่ได้ออกมาเป็นยังไงครับ ก็เรียนไป ตั้งหน้าตั้งตาเรียนไป ตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง แต่ก็เรียนไปจนจบ ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ออกมาแล้วก็ หางานทำอย่างที่ได้ถูกบอกมาตั้งแต่เด็ก สรุปว่า ผมก็ได้งานทำ แต่จะได้งานดีจริงหรือเปล่า จะได้เป็นเจ้าคนนายคนจริงหรือเปล่า ก็ยังคงต้องรอดูกันต่อไปครับ นี่เองคือสิ่งที่ผมเรียกว่า แนวความคิดแบบเก่า


แล้วผลที่เกิดขึ้นคืออะไรครับ ผลที่ตามมาจากความคิดแบบเก่าๆ ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ทุกคนเห็น และทุกคนคิดนั่นแหละครับ แต่อาจจะมีบางคนไม่ยอมรับก็ได้นะครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร คือยังไงครับ เรียนไปเรื่อยๆ จบมัธยม จบปริญญาตรี ออกไปหางานประจำทำ อย่างที่ถูกสั่งสอนมา จบออกมาทำงานดีๆนะ ขยันๆนะ จะได้รวยๆ เป็นเจ้าคนนายคน แต่ในความเป็นจริง ลองมองออกไปข้างนอกครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ดีจริง ทำไมคนตกงานเยอะขนาดนี้ ปีหนึ่งจบออกมาเป็นแสน งานรอรับ ไม่กี่หมื่นอัตรา แล้วจะไปพอได้ยังไง บางคนก็ต้องทำงานเหมือนคนเรียนไม่จบก็ทำได้เช่นตามร้านอาหาร โรงหนัง อะไรต่างๆ เป็นลูกจ้างหนักเลยครับ งานพวกนี้ไม่เห็นต้องเรียนให้จบปริญญาตรีอะไรเลยครับ ผมเห็นเด็กมัธยม จบ ม.3 ทำกันเยอะแยะเลยครับ เราเสียเวลาเรียนไปแทบตาย ลองนับเล่นๆก็ได้ครับ หลังจากจบ ม.3 จนจบปริญญาตรี อย่างเร็วอีก 3+4 = 7 ปีครับ 7ปีนะครับ ใครว่าน้อย แล้วเรากลับเลือกไปทำงานที่คนจบ ม.3 ทำได้แล้ว ผมอยากให้ท่านลองถามตัวเองว่า สิ่งที่ท่านกำลังทำ มันถูกอย่างที่ควรจะเป็นแล้วจริงๆหรือเปล่า แล้วลองย้อนสิ่งที่ถูกสอนมา เป็นเจ้าคนนายคน ทำงานเก่งๆจะได้รวยๆ ผมถามตรงๆเลยครับ มีตรงไหนใกล้บ้างแล้วหรือยังครับ


บางคน ได้งานแล้ว ทำงานแล้ว เงินเดือน15000 ครับ พอดีที่บ้านดีใจลูกเรียนจบ ออกรถให้1คัน ลืมสิครับว่าต้องเสียค่าน้ำมัน แล้วเป็นไงครับ โดนค่าน้ำมันไปทุกวันๆ ไหนจะค่ากินค่าเที่ยว ยังไม่ทันครบเดือนเลยครับ เงินเดือนหมดครับ สรุป ขอเงินพ่อแม่ต่อ แล้วใกล้หรือยังครับกับคำว่าสำเร็จ หรือบางคนได้ทำงานบริษัทดีๆจริงครับ ใกล้คำที่ถูกสอนมาแล้วครับ ได้ทำงานดีๆแล้วครับ แล้วยังไงต่อ กว่าจะได้เป็นระดับหัวหน้า กว่าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน ใช้เวลาอีกเท่าไหร่ครับ ยิ่งทุกวันนี้ การแข่งขันสูงปรี๊ด คนอยากเป็นหัวหน้ากันเท่าไหร่ ตัวหัวหน้าเองก็ต้องรักษาสภาพเค้าเต็มที่ คู่แข่งเราก็เยอะ แล้วกว่าจะได้เป็นหัวหน้ามันเมื่อไหร่ แล้วต่อไปมีเปิดเสรีอาเซียนอีก (ผมพูดตรงๆเลยครับ ผมเบื่อยี่ห้อนี้มากเลย อาเซียนเนี่ย) เป็นยังไงครับ ใครมาจากไหนอีกไม่รู้เป็นแสนเป็นล้านคน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อย่าหลอกตัวเองอีกเลยครับ แรงงานเค้าถูกกว่าเรา แรงางนเค้ามีประสิทธิภาพมากกว่าเรา แรงงานเค้าโดนบังคับให้พูด 3 ภาษา ในขณะที่เราพูดไทยยังไม่ชัด เขียนไทยยังไม่ถูก อังกฤษไม่ต้องพูดถึง หนักกว่าไทยอีกเยอะ แล้วท่านคิดว่า พวกบริษัทต่างๆนาๆ เค้าจะจ้างใครครับ ถ้าใครที่ตอบแบบไม่เข้าข้างตัวเองก็คงจะได้เหมือนกันนะว่าคงจะเป็นพวกต่างชาติที่เข้ามานั่นแหละ เค้าจะจ้างเราไปทำ..อะไร ใช่หรือเปล่าครับ แล้วไหนหล่ะ ที่เราถูกสอนมา มันใกล้ตรงไหนแล้ว ไม่มีเฉียดเลยซักนิดครับ


บางคนยิ่งกว่านั้นอีกครับ จบตรีแล้ว ต่อโทเข้าไปอีก จบออกมาทำงานเป็นไงครับ ทำงานประจำเหมือนเดิม เงินเดือนเยอะกว่าเดิมอีกนิดหน่อย จบโทได้เงินเดือนมากกว่าจบตรีไม่ถึง 2000 บาทต่อเดือน แต่เวลาที่เสียไป เงินที่ลงทุนไปกับการเรียนโทอย่างเร็ว 2 ปี อีกเท่าไหร่ แต่ผลลัพธ์แทบไม่ต่างกันครับ บางคนดีหน่อย ทางบ้านเปิดกิจการใหญ่โต เรียนจบมาก็ดูแลได้บริหารต่อไปได้ บางคนก็อาจจะบริหารแล้วก้าวหน้าต่อ นั่นถือว่าดีครับ แต่หลายๆคนก็บริหารแล้วเจ๊งอีกเยอะแยะมากมายอย่างที่เป็นข่าวกัน ลูกขายโรงงานพ่อทิ้ง เอาเงินไปใช้หนี้ อะไรต่างๆนาๆ หนักเลยครับ หมดตัวครับ ถ้าใครที่ลองอ่านแล้วคิดตาม ก็อาจจะพอเข้าใจ แต่ถ้าใครเห็นต่างผมก็ไม่ได้บังคับอะไร แต่อย่าด่ากันเสียหายก็พอ เพราะทุกคนย่อมมีแนวความคิดเป็นของตัวเอง ทั้งอาจมาจากความคิดที่ถูกปลูกฝัง หรืออาจจะมาจากความคิดส่วนตัวจริงๆก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ


 

แนวความคิดแบบใหม่ - เอาหล่ะสิครับ เมื่อได้อ่่านถึงแนวความคิดแบบเก่าๆกันไปแล้ว ลองมาดูต่อ ว่าสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ มีใครกี่คน ที่ได้รับการสั่งสอนมาแบบนี้บ้าง กร ลูกจะเรียนหรือเปล่าไม่เป็นไรนะ เอาแค่ที่อยากเรียน แล้วออกมาก็ทำธุรกิจตัวเองไป จะได้ไม่ต้องเป็นลูกน้องใครจะได้ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร จะได้ไม่ต้องโดนหัวหน้าสั่งโน่นสั่งนี่ เป็นเจ้านายตัวเองไป ทำงานให้ตัวเองไป ทำงานแล้วจะได้ทำให้ตัวเองรวย ไม่ใช่ทำให้คนอื่นรวย มีหรือเปล่าครับ ใครที่เคยได้ได้รับคำสอนแบบนี้ ผมตอบให้แทนเลยแล้วกันครับ อาจจะมีก็ได้ แต่น้อย แล้วพอน้อยแล้วเป็นยังไงต่อครับ ใครจะไปเชื่อ ใครจะไปฟัง ใครจะไปทำตาม ทำก็บ้าแล้ว แปลกกว่าชาวบ้านเค้า เค้าหาว่าบ้ากันหมด จริงหรือเปล่าครับ


ผมเองก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่าผมจะต้องได้รับคำสั่งคำสอนอะไรแบบนี้ และผมก็ไม่เคยได้จริงๆนั่นแหละ แล้วยังไงหล่ะ ทำไมผมคิดแบบนี้หล่ะ ทำไมผมถึงไปคิดไอ้วิธีอะไรพวกนี้ได้หล่ะ เพราะผมได้ลองอ่านหนังสือ ได้ศึกษาชีวิต ประวัติ คนที่เค้าประสบความสำเร็จจริงๆแล้วเค้าเขียนหนังสือ แล้วเค้าสอนออกมาเป็นคำพูด คำคมอะไรต่างๆ ผมลองเอามาคิดตามแล้วผลก็ออกมาเป็นแบบนี้ครับ ผมก็เชื่อ ทำไมหล่ะครับ เค้าไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหายของผม ผมเอาอะไรไปแน่ใจว่าเค้าจะไม่โกหกหลอกลวง เค้าจะไม่หวังผลอะไรกับเรา แต่ผมอยากจะบอกคำหนึ่งไว้ครับ สำหรับใครที่คิดแบบนี้ "เชื่อง่ายไม่ได้แปลว่าโง่ เชื่อยากไม่ได้แปลว่าฉลาด"


บางคน เก่งมากครับ แต่เก่งในกะลาครับ เหมือนกบ คือยังไงหล่ะ คืออาจจะสอบได้คะแนนมากที่สุดในห้อง ในโรงเรียนหรืออะไรก็ตามแต่ครับ เก่งที่สุดเลยครับ ใครพูดมา ไม่เชื่อเลย ข้าเก่ง ข้าแน่ แล้วเป็นไงครับ ออกไปสู่โลกความจริง โดนหลอก โดนโกง โดนแซง โดนทับ โดนถม ดับอนาถครับ บางคนเก่งครับ เก่งจริงๆ แต่กับเรื่องที่ไม่ใช่ชีวิตจริง ออกแนวเก่งกับสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา สิ่งที่จำลองขึ้นมา อย่างอะไรครับ เก่งมากเลยครับ เล่นเกมอะไรเก่งหมด ชนะหมด ที่1 หมด ไม่ว่าจะออนไลน์ ออฟไลน์ แต่ออกมาเข้าชีวิตจริงครับ มันไม่เหมือนกันครับ ท่านอาจเล่นเกมเก่ง บริหารเวลาในเกมมเก่ง แต่ท่านอาจจะออกมาบริหารอะไรในชีวิตไม่ได้เลย เพราะอะไรครับ เกมมันถูกออกแบบมาด้วยตัวมันเองแล้วครับ ว่าถ้าเล่นแล้วจะมีคำว่า จบ นี่แหละครับ ถึงมีหนังสืออะไรต่างๆ บทสรุปเกมต่างๆ สูตรโกงเกมต่างๆออกมามากมาย เพราะมันถูกออกแบบมาแบบนั้นอยู่แล้ว แต่กับการใช้ชีวิตจริงๆหล่ะครับ มีที่ไหนครับ ขายหนังสือ บทสรุปพิชิตชีวิต สูตรโกงชีวิต ไม่มีเลยครับ เพราะอะไรครับ หลักต่างๆเป็นทฤษฎีไงครับ ถูกผิดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ ต้องลองครับ เช่นกันครับ อย่างในบทความนี้ก็เป็นทฤษฎี บางท่านอาจเชื่อ บางท่านอาจไม่เชื่อ บางท่านอาจคิดว่าทำแบบเดิมดีแล้ว เค้าสำเร็จกันเยอะแยะ ทำตามเดิมไป เซฟๆ ไม่โดนด่า ไม่โดนว่า ไม่แปลกประหลาด ก็ว่ากันไปครับ


ถึงตรงนี้แล้ว สิ่งที่ผมได้พยายามเขียนเพื่อแชร์ความคิดของผมออกไปให้กับทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านถึงแนวความคิดของผม ผมคิดว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นหนึ่งเท่านั้น จริงหรือไม่จริง ได้ผลไม่ได้ผล แล้วแต่ว่าท่านคิดยังไง เปิดใจหรือเปล่า ยอมรับและคิดตามหรือเปล่า ทำตามหรือเปล่า ถ้าใครคิดตามและอยากนำแนวคิดไปทำตาม ไปบอกต่อ ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จในการนำเสนอแนวความคิดดีๆให้ท่าน แต่ถ้าใครไม่ทำตาม ไม่เปิดใจ กลัวหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับท่าน กับความคิดท่าน กับความสำเร็จของท่าน ถ้าหากท่านผระสบความสำเร็จด้วยแนวความคิดแบบเก่า ถือเป็นสิ่งดีสำหรับท่านแล้ว แต่ถ้าท่านยังไม่ได้ประสบความสำเร็จและไม่เปิดใจยอมรับผมก็ไม่สามารถว่าอะไรได้ครับ ทุกคนมีความคิดของตัวเองครับ ผมเชื่อแบบนั้น


ถ้าใครที่มีข้อสงสัย หรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังไงสามารถให้ข้อมูลต่างๆได้ที่หน้า Webboard หรืออาจจะส่งเมลติดต่อผมโดยตรงเลยก็ได้ครับ หรือถ้าหากว่าใครที่ลองได้อ่าน ลองเปิดใจ และเห็นด้วยกับผม และอยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อผมได้ผ่านทาง Webboard หรือติดต่อผมโดยตรงก็ได้เช่นกันครับ



Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  4,131
Today:  3
PageView/Month:  28

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com